วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2562

คุณสมบัติของ Norton

Norton Antivirus


ระบบป้องกันไวรัส Norton Antivirus ผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยมจาก Symantec ซึ่งเมื่อพูดถึงชื่อ Norton แล้วคงจะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะโปรแกรมสแกนไวรัสจาก Symantec นี้มักเป็นหนึ่งในหลายๆ โปรแกรมสแกนไวรัสที่ใครหลายๆ คนเลือกใช้งานเป็นตัวแรก Norton Antivirus ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงเวอร์ชั่น Norton Antivirus 2012 เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัส สปายแวร์ มัลแวร์และภัยคุกคามที่พยายามจะแฝงตัวเข้ามาโจมตีคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต มีการป้องกันไวรัสและสปายแวร์ในขั้นสูง มีการเตือนเมื่อมีการบุกรุก จากนั้นโปรแกรมจะทำการค้นหาไวรัสแล้วกำจัดไวรัสให้สิ้นซากในทันที ในด้านของสปายแวร์ มัลแวร์ และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอื่นๆ โปรแกรมจะทำหน้าที่ตรวจสอบภัยคุกคาม อุดช่องโหว่ต่างๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ป้องกันหนอนไวรัสและปกป้องข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณอย่างเต็มประสิทธิภาพ
คุณสมบัติ
  • Norton Download Insight ใช้ระบบข้อมูลข่าวกรองออนไลน์ที่ครอบคลุมขอบเขตกว้างขวาง โดยใช้ข้อมูลประวัติของไฟล์ (Reputation) เพื่อปกป้องเครื่องพีซีของคุณในลักษณะเชิงรุก การวิเคราะห์และรายงานเรื่องความปลอดภัยของไฟล์และแอพพลิเคชั่นใหม่ก่อนที่ผู้ใช้จะติดตั้งและรันไฟล์และแอพพลิเคชั่นเหล่านั้น
  • Norton System Insight ประกอบด้วยคุณสมบัติและข้อมูลระบบแสดงผลที่เข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้เครื่องพีซีมีประสิทธิภาพและความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงแอพพลิเคชั่นแบบอัตโนมัติและแบบตามความต้องการ และมีการแสดงเหตุการณ์ล่าสุดบนคอมพิวเตอร์ โดยนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการวิจัยและวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับพีซี กราฟแสดงสมรรถนะจะระบุถึงสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ช้าลง
  • Norton Threat Insight แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ตรวจพบบนเครื่องพีซี รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับแหล่งที่มา (URL) และเวลาที่มีการตรวจพบครั้งแรก
  • Norton Insight Network ใช้ประโยชน์จากแนวทางการประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud) ของไซแมนเทค โดยนอกเหนือจากการใช้บัญชีรายชื่อไฟล์และแอพพลิเคชั่นที่เป็นอันตรายและที่ ปลอดภัยจากระบบคลาวด์แล้ว เทคโนโลยี Quorum ยังใช้การวิเคราะห์เชิงสถิติสำหรับแอตทริบิวต์ของไฟล์ โดยอ้างอิงข้อมูลจากการสแกนหลายพันครั้งบนคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่อง เพื่อระบุระดับความน่าเชื่อถือของไฟล์ วิธีนี้ทำให้ Norton สามารถระบุไฟล์ต่างๆ ว่าเป็นไฟล์ที่น่าเชื่อถือหรือไม่น่าเชื่อถือได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากใช้วิธีการแบบเดิมๆ ไฟล์บางส่วนจะถูกระบุว่าเป็นไฟล์ที่ไม่รู้จัก ในการติดตั้งใช้งาน Norton Antivirus 2010 ถือว่าไม่ยากเหมือนกับการติดตั้งโปรแกรมทั่วไป โดยเมื่อใส่แผ่นติดตั้งลงไป เลือกที่เมนู Install Norton Antivirus จากนั้นตัวโปรแกรมก็จะทำงานระยะเวลาหนึ่ง และก็ให้ใส่ Product Key ที่อยู่ด้านหลังกล่อง จากนั้นรอการทำงานอีกนิดหน่อย ตัวโปรแกรมก็ติดตั้งเสร็จ ถือว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่ยุ่งยากและมีความรวดเร็วในการทำงานดี
ขั้นตอนการติดตั้ง
1. คลิก Install
2. คลิก Next
3. คลิก I accept  และคลิกปุ่ม Next
4. คลิกที่ปุ่ม I accept
5. จากนั้นคลิกปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป
6. จากนั้นโปรแกรจะขึ้นหน้าต่างให้เลือกโฟลเดอร์ในการติดตั้ง ให้ใช้ค่าที่โปรแกรมกำหนดมาให้เลย จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Next
7. ระบบทำการติดตั้งโปรแกรม Norton Antivirus รอสักครู่
8. เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้ว ระบบจะให้เราทำการ Restart คอมพิวเตอร์ใหม่ ให้คลิกเลือกที่ Restart Windows จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Finish
9. เมื่อคอมพิวเตอร์ของเรา Restart ขึ้นมาใหม่ก็จะพบกับหน้าต่างของ Norton Antivirus คลิกปุ่ม Next เพื่อทำงานต่อไป
10. จะปรากฏหน้าต่างการทำงานของโปรแกรม ซึ่งมีให้เลือก 3 หัวข้อ โดยเลือก Activate later และคลิกปุ่ม Next

11. คลิกปุ่ม Next เพื่อทำงานต่อ

12. ระบบจะทำการการ Configuring รอสักครู่จะปรากฏหน้าต่างดังรูป ให้กดปุ่ม Finish
13. เมื่อกดปุ่ม Finish จะปรากฏหน้าตาโปรแกรม Norton AntiVirus

วิธีการใช้งาน
1. Auto-Protect 
  • สถานะ On แสดงว่ากำหนดให้ตรวจหาไวรัสอัตโนมัติ
    Emai Scanning 
  • สถานะ On แสดงว่ากำหนดให้ตรวจหาไวรัสใน e-mail
    Script Blocking 
  • สถานะ On แสดงว่ากำหนดให้ตรวจหาไวรัสที่เขียนจาก Script เช่น VB Script, Java Script ซึ่งสามารถเจาะระบบเข้าไปยังเครือข่าย หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารต่าง ๆ หรือควบคุมและสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย
    Full System Scan
  • ถ้าแสดงสถานะ Not completed แสดงว่ายังไม่มีการตรวจหาไวรัสทั้งระบบ ในที่นี้แสดงวัีนที่ที่ทำการสแกนไวรัสทั้งระบบไปแล้วเมื่อวันที่ 21/3/2549
    Virus Definitions
  • บอกถึงวันที่ที่ทำการ update ล่าสุด
    Subscription Service
  • บอกถึงวันที่หมดอายุของโปรแกรมที่ใช้อยู่
    Automation LiveUpdate 
  • สถานะ On แสดงว่าให้มีการ update ข้อมูลไวรัสโดยอัตโนมัติ
2. คลิกที่แถบ Full System เพื่อให้ตรวจสอบระบบทั้งหมดในเครื่องคอมพิวเตอร์

3. คลิกทีปุ่ม Scan now

4. ในการทำการสแกนไวรัสสามารถหยุดการตรวจหาไวรัส โดยคลิกที่ปุ่ม Stop
5. หลังจากที่โปรแกรมทำการสแกนเสร็จแล้ว จะปรากฏหน้าต่างแสดงการสรุปผล
จากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม Finished


ช่วยเหลือและสนับสนุน

การสนับสนุนของลูกค้าเป็นออนไลน์หรือทางโทรศัพท์สดแชทและอีเมล 24/7
การจัดการของผลิตภัณฑ์ Norton ของคุณเป็นเมฆที่ใช้ดังนั้นคุณสามารถติดตั้ง, ถ่ายโอน, ปรับปรุงหรือต่ออายุการสมัครสมาชิกผลิตภัณฑ์ Norton จากที่ใดก็ได้บนอินเทอร์เน็ต

ข้อมูลจำเพาะ:

เทคโนโลยีที่สำคัญ
  • ป้องกันไวรัส
  • ป้องกันสปายแวร์
  • คุ้มครอง Bot
  • ปรับปรุงนอร์ตันชีพจร
  • Rootkit ป้องกัน
  • ทำแผนที่เครือข่ายและการตรวจสอบ
  • บริการดีนอร์ตัน
  • SONAR คุ้มครองพฤติกรรม 3 
ประโยชน์ที่สำคัญ
  • ปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจากไวรัสล่าสุด, สปายแวร์และภัยคุกคามอื่น ๆ
  • ให้ได้อย่างรวดเร็ว, การป้องกันออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพที่จะทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าของการโจมตีไซเบอร์
  • ช่วยให้คุณสนทนาไฟล์อีเมลและแบ่งปันโดยไม่ต้องกังวล
  • การปรับปรุงโดยอัตโนมัติให้ง่ายต่อการใช้งานและรวมถึงมีการสนับสนุนลูกค้าฟรีในช่วงระยะเวลาการสมัครของคุณ 
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ
  • Microsoft ® Windows XP ® (32-bit) Home / Professional / Tablet PC / Media Center (32-bit) ที่มี Service Pack 2 หรือในภายหลัง
  • Microsoft Windows Vista ® (32-bit และ 64-bit) Starter / Home Premium, Basic / บ้าน / ธุรกิจ / Ultimate Service Pack 1 หรือในภายหลัง
  • Microsoft Windows 7 (32-bit และ 64-bit) เบี้ยประกันภัย Starter / Home Basic / Home / Professional / สุดยอด
  • Microsoft Windows 8 และ Windows 8 Pro (32-bit และ 64-bit)
ขั้นต่ำของฮาร์ดแวร์
  • 300 MHz สำหรับ Microsoft Windows XP, 1 GHz สำหรับ Microsoft Windows Vista / Microsoft Windows 7/Windows 8
  • 256 MB RAM
  • 300 MB พื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์
  • CD-ROM ​​หรือไดรฟ์ดีวีดี (ถ้าไม่ติดตั้งผ่านการดาวน์โหลดอิเล็กทรอนิกส์)
เบราว์เซอร์สนับสนุนการคุ้มครองช่องโหว่
Microsoft Internet Explorer ® 7.0 หรือสูงกว่า (32-bit เท่านั้น) 1 
Mozilla Firefox ®® (32 บิตเท่านั้น) 1,2

สรุป

Norton AntiVirus ยังคงที่จะสร้างตัวเองเพื่อรักษาศักยภาพในการแข่งขันในสนามของ contenders ที่ก้าวกระโดดแต่ละอื่น ๆ จากปีที่ปี ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสนี้ทำงาน มันใช้เทคโนโลยีล่าสุดการรักษาความปลอดภัยที่รู้จักกันในอุตสาหกรรม และมีจำนวนมากมายของผู้ภักดีที่เชื่อถือในความปลอดภัยของพวกเขาไป Norton ทุกวัน

ที่มา : https://tharasai256.wordpress.com/assignment/assignment-4/antivirus/norton-antivirus/


Norton Security 
Norton Security (โปรแกรมป้องกันไวรัส เพิ่มความปลอดภัยแบบครบวงจร) : สำหรับโปรแกรมตัวนี้มีชื่อว่า โปรแกรม Norton Security เป็น โปรแกรมป้องกันไวรัส ที่ได้รวบรวมเอา ความสามารถในการป้องกันไวรัส (Norton Antivirus) เข้าไว้ด้วยกัน กับการป้องกันการบุกรุกจากเครือข่ายภายนอก อย่าง อินเตอร์เน็ต (Norton Internet Security) ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่สามารถป้องกัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น การป้องกัน ไวรัส (Viruses), แฮคเกอร์ (Hackers), บอท (Bots), สปายแวร์ (Spywares) ตลอดจน ม้าโทรจัน (Trojans) ที่สามารถเป็นอันตราย และสร้างความเสียหายให้กับเครื่อง คอมพิวเตอร์ของเรา
ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี ของ โปรแกรมสแกนไวรัส Norton Security นี้ ยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Norton Safe Web ซึ่งมีคุณสมบัติในการ ป้องกันผู้บุกรุกต่างๆ เช่น ไวรัส สปายแวร์ บอท หรือ ตลอดจน ม้าโทจัน เป็นการบล็อค และป้องกันก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะเข้ามาสู่ เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เรียกได้ว่า กันไว้ดีกว่าแก้ นั่นเอง พร้อมทั้งยังช่วยอุดช่องโหว่ อุดรอยรั่วของระบบปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ทุกช่องทางอีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว สำหรับไฟล์ต่างๆ ที่เราได้ดาวน์โหลดลงมาอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็สามารถใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส Norton Security นี้สแกน (Scan) เพื่อวิเคราะห์ (Analyze) และ แจ้งเตือน (Notification) ความเสี่ยง รวมไปถึงความน่าจะเป็นของโปรแกรมที่ อาจจะ สร้างความเสียหายให้กับเครื่องของท่านได้ละ และสุดท้ายนี้ โปรแกรมป้องกันไวรัส นี้ ไม่กินทรัพยากรเครื่องมากอย่างที่คิด ไม่ช้า และที่สำคัญควรมีติดเครื่องเอาไว้ ปลอดภัยเป็นที่สุด
Program Features (คุณสมบัติและความสามารถของโปรแกรม Norton Security เพิ่มเติม)
  • Insight : มั่นใจได้ถึงการป้องกันทุกการใช้งานของคุณ เพราะมีผู้ใช้งานที่การันตีและมีฟีดแบ็คที่ดีมากกับโปรแกรมตัวนี้กว่า 175 ล้านคน
  • Internet Protection System : โปรแกรมสแกนไวรัส ตัวนี้จะสอดส่องดูแลเครื่องของคุณตลอดเวลา ให้คุณเล่นอินเตอร์เน็ตได้อย่างสบายใจ การแชทกับโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ก็หายห่วงได้ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือคนที่ โหลด LINE PC มาใช้งาน
  • Spam Blocking : ป้องกันสแปม (Spam) โฆษณาที่น่ารำคาญต่างๆ ออกไป รวมถึงที่เกาะมากับอีเมล์ที่คุณอาจไม่รู้และคลิกที่ลิงค์ก็ไม่เป็นไร เพราะมันจะปกป้องคุณจากพวกนี้ได้เต็มประสิทธิภาพ
  • Anti-Phishing : ป้องกันการโจรกรรมข้อมูล (Hacker) ในรูปแบบต่างๆ เช่น ข้อมูลทำธุรกรรม รหัสหรือชื่อผู้ใช้งานเว็บไซต์สำคัญ เป็นต้น ผ่านอินเตอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยสุดๆ
  • Identity Safe :จดจำ ป้องกัน และล็อกอินการเข้าใช้งานตามเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด และเก็บไว้เป็นความลับด้วยโปรแกรมสแกนไวรัสตัวนี้
  • Safe Web : แจ้งเตือนเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงในการติดสแปม โฆษณา และการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่ปลอดภัย
  • Safe Web for Facebook : ช่วยสแกนและดูแลความปลอดภัยในการเล่น Facebook ของคุณได้เต็มที่ มันจะสแกนวอลล์ โพส คอมเม้น และข้อความแชทที่มีลิงค์ต่างๆ ติดมาด้วยหายห่วงกับการโดนไวรัสแน่นอน
  • Intelligent 2-way Firewall : ระบบไฟวอลล์ 2 ชั้น เพื่อความมั่นใจมากขึ้นในการป้องกันแฮคเกอร์หรือผู้อื่นที่เข้ามาเจาะระบบ
  • Download Insight และ IP Address Insight : สามารถดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและตรวจสอบที่มาของลิงค์ดาวน์โหลดพร้อมเลขไอพีแอดเดรสของลิงค์ดาวน์โหลดได้
  • Parental Control : โหมดควบคุมโดยผู้ปกครอง หรือพ่อแม่ ครอบครัว ซึ่งจะป้องกันการเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กๆ ภายในบ้าน
  • Network Mapping และ Monitoring : แสดงรายละเอียดทุกอุปกรณ์ที่นำมาต่อกับเครื่องของคุณ รวมไปถึงวงเน็ตเวิร์คที่ใช้งานและ Wireless LAN ก็ยังครอบคลุมอีกด้วย
  • Automatic Product Downloads และ Installations : อัพเดตข้อมูลให้ทันสมัยเพื่อกำจัดไวรัสได้อย่างครอบคลุมและติดตั้งให้ทันทีเมื่อมีการอัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ (อัพเดตข้อมูลไวรัส) ทำงานเงียบและไม่รบกวนการใช้งานส่วนอื่นของคุณเลยละ
  • Norton Pulse : ตรวจสอบและคอยมั่นอัพเดตแอนตี้ไวรัสใหม่อยู่ทุกๆ 5 ถึง 15 นาที แม้ว่าคุณจะเล่นหรือทำงานอยู่ก็ตามโดยไม่เปลืองทรัพยากรเครื่อง
  • Insight + Optimized File Copy : ตรวจสอบและสแกนไฟล์ทุกชนิดที่อยู่ภายในเครื่องแม้จะคัดลอกหรือย้ายที่ก็ตาม
  • Norton Management : ระบบการจัดการใหม่จาก Norton ที่สำรองข้อมูลทุกอย่างในระบบคลาวด์ ไม่ว่าคุณจะแก้ไข้ ติดตั้งใหม่ ทำซ้ำ หรืออัพเดตผ่านเว็บไซต์ Norton ได้ทันที
  • และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายเพื่อความปลอดภัยของเครื่องคอมและการท่องอินเตอร์เน็ตแบบไร้ขีดจำกัดเลยละ

Note : โปรแกรม Norton Security ที่คุณกำลังจะดาวน์โหลดนี้ มีคุณสมบัติเป็นแชร์แวร์ (Shareware) ซึ่งทางผู้พัฒนา โปรแกรม (Program Developer) เขาให้คุณ ได้สามารถ นำไปใช้กันก่อนเป็นจำนวน 30 วัน หากต้องการจะใช้ต่อกันในแบบตัวเต็มๆ จะต้องเสียค่าลงทะเบียน เป็นเงินจำนวน 2,500 บาท (แบบ 1 ปี - ใช้งานได้ 5 เครื่อง)
นอกจากนี้แล้ว คุณสามารถที่จะติดต่อสั่งซื้อ Norton Security Deluxe  กับทางเว็บไซต์ไทยแวร์ได้ทันทีเลย

This program is called "Norton Security ". It is the very latest edition of Symantec's powerful and feature-packed security suite. Effective antivirus technologies monitor the files you run, download and access, as well as monitoring program behaviour, aiming to detect and remove malware before it can do any damage.
โปรแกรมสแกนไวรัส Norton Security
รูปภาพประกอบการใช้งาน ของ โปรแกรมสแกนไวรัส Norton Security





วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562

การโจมตีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการป้องกันไวรัส

การโจมตีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

การโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์

การโจมตีทางอินเตอร์เน็ตนั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันข่าวที่เกี่ยวการโจมตีในแต่ละที่ ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงในการรับรู้และแพร่กระจายข่าวออกไป แต่ปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถตรวจดูการโจมตีทางอินเตอร์เน็ตที่เกิดขึ้นจริงรอบโลก ในแบบเรียลไทม์ได้แล้วด้วยแผนที่จากโครงการที่ชื่อว่า Honey net ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูหนังสงครามอยู่ก็ไม่ปานเมื่อเข้าไปยังแผนที่จะพบจุดสีแดงแสดงขึ้นมาซึ่งแสดงถึงการโจมตีในพื้นที่นั้น ๆ ส่วนจุดสีเหลืองแสดงถึง honey pots หรือระบบที่ตั้งค่าเพื่อบันทึกการโจมตีที่กำลังจะมาถึง และกล่องสีดำทางด้านล่างจอแสดงข้อมูลว่า การโจมตีแต่ละที่นั้นมีที่มาจากไหน โดยข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งออกมาจากเครือข่ายสมาชิกในโครงการ Honey net ของเซนเซอร์ honey pot ซึ่งต้องการเผยแพร่การโจมตีเหล่านี้ (สมาชิกสามารถเลือกได้ว่าต้องการเผยแพร่ข้อมูลหรือไม่ ซึ่งจะพบว่าในแถบยุโรปมีจุดสีแดงขึ้นมาสูงที่สุด เนื่องจากมีสมาชิกที่ต้องการเผยแพร่เป็นจำนวนมากกว่าแถบอื่น ๆ)
ประเภทการโจมตีในระบบเครือข่าย Internet
ประเภทการโจมตีในระบบเครือข่าย Internetการโจมตีในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตถือได้ว่าเป็นภัยอันตรายต่อสังคมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากภัยนี้จะเป็นการรบกวนการทำงานของผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังส่งผลเสียต่อข้อมูลสำคัญๆ ที่มีอยู่อีกด้วย


1. ชนิดของภัยคุกคามที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต จำแนกได้ดังนี้

1.1 มัลแวร์ (Malware) คือความไม่ปกติทางโปรแกรมที่สูญเสียความลับทางข้อมูล (Confidentiality) ข้อมูลถูกเปลี่ยนแปลง (Integrity) สูญเสียเสถียรภาพของระบบปฏิบัติการ (Availability) ซึ่งมัลแวร์แบ่งออกได้เป็นหลายประเภท จึงขออธิบายแต่ละประเภทดังนี้

1.1.1 ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) คือรหัสหรือโปรแกรมที่สามารถทำสำเนาตัวเองและแพร่กระจายสู่เครื่องอื่นได้ โดยเจ้าของเครื่องนั้นๆ ไม่รู้ตัว สิ่งสำคัญคือไวรัสไม่สามารถแพร่กระจายได้หากขาดคนกระทำ เช่น แบ่งปันไฟล์ที่ติดไวรัสหรือส่งอีเมล์ที่ติดไวรัส เป็นต้น

1.1.2 หนอนคอมพิวเตอร์ (Computer Worm) เรียกสั้นๆ ว่า เวิร์ม เป็นหน่วยย่อยลงมาจากไวรัส มีคุณสมบัติต่างๆเหมือนไวรัสแต่ต่างกันที่เวิร์มไม่ต้องอาศัยผู้ใช้งาน แต่จะอาศัยไฟล์หรือคุณสมบัติในการส่งต่อข้อมูลในคอมพิวเตอร์เพื่อกระจายตัวเอง บางทีเวิร์มสามารถติดตั้ง Backdoor ที่เริ่มติดเวิร์มและสร้างสำเนาตัวเองได้ ซึ่งผู้สร้างเวิร์มนั้นสามารถสั่งการได้จากระยะไกล ที่เรียกว่า Botnet โดยมีเป้าหมายเพื่อโจมตีคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ส่งที่อันตรายอย่างยิ่งของเวิร์ม                                                                      1.1.3 ม้าโทรจัน (Trojan Horse) คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่ดูเหมือนมีประโยชน์ แต่แท้ที่จริงก่อให้เกิดความเสียหายเมื่อรันโปรแกรม หรือติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ ผู้ที่ได้รับไฟล์โทรจันมักถูกหลอกลวงให้เปิดไฟล์ดังกล่าว โดยหลงคิดว่าเป็นซอฟต์แวร์ถูกกฎหมาย หรือไฟล์จากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อไฟล์ถูกเปิดอาจส่งผลลัพธ์หลายรูปแบบ เช่น สร้างความรำคาญด้วยการเปลี่ยนหน้าจอ สร้างไอคอนที่ไม่จำเป็น จนถึงขั้นลบไฟล์และทำลายข้อมูล                                                                                          1.1.4 Backdoor แปลเป็นไทยก็คือประตูหลัง ที่เปิดทิ้งไว้ให้บุคคลอื่นเดินเข้านอกออกในบ้านได้โดยง่ายซึ่งเป็นช่องทางลัดที่เกิดจากช่องโหว่ของระบบ ทำให้ผู้ไม่มีสิทธิเข้าถึงระบบหรือเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำการใดๆ                                                                1.1.5 สปายแวร์ (Spyware) คือมัลแวร์ชนิดหนึ่งที่ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วทำให้ล่วงรู้ข้อมูลของผู้ใช้งานได้โดยเจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว สามารถเฝ้าดูการใช้งานและรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ได้ เช่น นิสัยการท่องเน็ต และเว็บไซต์ที่เข้าชม ทั้งยังสามารถเปลี่ยนค่าที่ตั้งไว้ของคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้าลง เป็นต้น                                               1.2 การโจมตีแบบ DoS/DDos คือการพยายามโจมตีเพื่อทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางหยุดทำงาน หรือสูญเสียเสถียรภาพ หากเครื่องต้นทาง(ผู้โจมตี) มีเครื่องเดียว เรียกว่าการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) แต่หากผู้โจมตีมีมากและกระทำพร้อมๆ กัน จะเรียกกว่าการโจมตีแบบ Distributed Denial of Service (DDoS) ซึ่งในปัจจุบันการโจมตีส่วนใหญ่มักเป็นการโจมตีแบบ DDoS      1.3 BOTNET หรือ “Robot network” คือเครือข่ายหุ่นรบที่ถือเป็นสะพานเชื่อมภัยคุกคามทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ด้วยมัลแวร์ทั้งหลายที่กล่าวในตอนต้นต้องการนำทางเพื่อต่อยอดความเสียหาย และทำให้ยากแต่การควบคุมมากขึ้น                                                1.4 ข้อมูลขยะ (Spam) คือภัยคุกคามส่วนใหญ่ที่เกิดจากอีเมล์หรือเรียกว่า อีเมล์ขยะ เป็นขยะออนไลน์ที่ส่งตรงถึงผู้รับโดยที่ผู้รับสารนั้นไม่ต้องการ และสร้างความเดือดร้อน รำคาญให้กับผู้รับได้  ในลักษณะของการโฆษณาสินค้าหรือบริการ การชักชวนเข้าไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งอาจมีภัยคุกคามชนิด phishing แฝงเข้ามาด้วย ด้วยเหตุนี้จึงควรติดตั้งระบบ anti-spam หรือใช้บริการคัดกรองอีเมล์ของเว็บไซต์ที่ให้บริการอีเมล์                                                                                         1.5 Phishing เป็นคำพ้องเสียงกับ “fishing” หรือการตกปลาเพื่อให้เหยื่อมาติดเบ็ด คือ กลลวงชนิดหนึ่งในโลกไซเบอร์ด้วยการส่งข้อมูลผ่านอีเมล์หรือเมสเซนเจอร์ หลอกให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นสถาบันการเงินหรือองค์กรน่าเชื่อถือ แล้วทำลิงค์ล่อให้เหยื่อคลิก เพื่อหวังจะได้ข้อมูลสำคัญ เช่น username/password, เลขที่บัญชีธนาคารเลขที่บัตรเครดิต เป็นต้น แต่ลิงค์ดังกล่าวถูกนำไปสู่หน้าเว็บเลียนแบบ หากเหยื่อเผลอกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป มิจฉาชีพสามารถนำข้อมูลไปหาประโยชน์ในทางมิชอบได้                  1.6 Sniffing เป็นการดักข้อมูลที่ส่งจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งบนเครือข่ายในองค์กร (LAN) เป็นวิธีการหนึ่งที่นักโจมตีระบบนิยมใช้ดักข้อมูลเพื่อแกะรหัสผ่านบนเครือข่ายไร้สาย (Wirdless LAN) และดักข้อมูล User/Password ของผู้อื่นที่ไม่ได้ผ่านการเข้ารหัส



การโจมตีเครือข่าย

   แม้ว่าระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะเป็นเทคโนโลยีที่น่าอัศจรรย์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มากถ้าไม่มีการควบคุมหรือป้องกันที่ดี การโจมตีหรือการบุกรุกเครือข่าย หมายถึง ความพยายามที่จะเข้าใช้ระบบ (Access Attack) การแก้ไขข้อมูลหรือระบบ (Modification Attack) การทำให้ระบบไม่สามารถใช้การได้ (Deny of Service Attack) และการทำให้ข้อมูลเป็นเท็จ (Repudiation Attack) ซึ่งจะกระทำโดยผู้ประสงค์ร้าย ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ หรืออาจเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจของผู้ใช้เองต่อไปนี้เป็นรูปแบบต่าง ๆ ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามที่จะบุกรุกเครือข่ายเพื่อลักลอบข้อมูลที่สำคัญหรือเข้าใช้ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
 1.แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์
ข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ส่งผ่านเครือข่ายนั้นจะถูกแบ่งย่อยเป็นก้อนเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “แพ็กเก็ต (Packet)” แอพพลิเคชันหลายชนิดจะส่งข้อมูลโดยไม่เข้ารหัส (Encryption) หรือในรูปแบบเคลียร์เท็กซ์ (Clear Text)   


 2.ไอพีสปูฟิง

ไอพีสปูฟิง (IP Spoonfing)หมายถึง การที่ผู้บุกรุกอยู่นอกเครือข่ายแล้วแกล้งทำเป็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ (Trusted) โดยอาจจะใช้ไอพีแอดเดรสเหมือนกับที่ใช้ในเครือข่าย หรืออาจจะใช้ไอพีแอดเดรสข้างนอกที่เครือข่ายเชื่อว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ หรืออนุญาตให้เข้าใช้ทรัพยากรในเครือข่ายได้ 

       เครดิตข้อมูลจากttp://www.thaicert.nectec.or.th/paper/DoS/defenses.php
 3.การโจมตีรหัสผ่าน
การโจมตีรหัสผ่าน (Password Attacks) หมายถึงการโจมตีที่ผู้บุกรุกพยายามเดารหัสผ่านของผู้ใช้คนใดคนหนึ่ง ซึ่งวิธีการเดานั้นก็มีหลายวิธี เช่น บรู๊ทฟอร์ช (Brute-Force) ,โทรจันฮอร์ส (Trojan Horse) , ไอพีสปูฟิง แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์ เป็นต้น                              4.การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle 
การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle นั้นผู้โจมตีต้องสามารถเข้าถึงแพ็กเก็ตที่ส่งระหว่างเครือข่ายได้ เช่น ผู้โจมตีอาจอยู่ที่ ISP ซึ่งสามารถตรวจจับแพ็กเก็ตที่รับส่งระหว่างเครือข่ายภายในและเครือข่ายอื่น ๆ โดยผ่าน ISP การโจมตีนี้จะใช้ แพ็กเก็ตสนิฟเฟอร์เป็นเครื่องมือเพื่อขโมยข้อมูล หรือใช้เซสซั่นเพื่อแอ็กเซสเครือข่ายภายใน หรือวิเคราะห์การจราจรของเครือข่ายหรือผู้ใช้


เครดิตข้อมูลจากhttp://www.mvt.co.th/viewproduct.php?pid=182&cid=32&sid=19
 5.การโจมตีแบบ DOS


การโจมตีแบบดีไนล์ออฟเซอร์วิส หรือ DOS (Denial-of Service) หมายถึง การโจมตีเซิร์ฟเวอร์โดยการทำให้เซิร์ฟเวอร์นั้นไม่สามารถให้บริการได้ ซึ่งปกติจะทำโดยการใช้รีซอร์สของเซิร์ฟเวอร์จนหมด หรือถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ตัวอย่างเช่น เว็บเซิร์ฟเวอร์ และเอฟทีพีเซิร์ฟเวอร์ การโจมตีจะทำได้โดยการเปิดการเชื่อมต่อ (Connection) กับเซิร์ฟเวอร์จนถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ผู้ใช้คนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้
  6.โทรจันฮอร์ส เวิร์ม และไวรัส                                                                                        คำว่า โทรจันฮอร์ส (Trojan Horse)” นี้เป็นคำที่มาจากสงครามโทรจัน ระหว่างทรอย (Troy) และกรีก (Greek) ซึ่งเปรียบถึงม้าโครงไม้ที่ชาวกรีกสร้างทิ้งไว้แล้วซ่อนทหารไว้ข้างในแล้วถอนทัพกลับ พอชาวโทรจันออกมาดูเห็นม้าโครงไม้ทิ้งไว้ และคิดว่าเป็นของขวัญที่กรีซทิ้งไว้ให้ จึงนำกลับเข้าเมืองไปด้วย พอตกดึกทหารกรีกที่ซ่อนอยู่ในม้าโครงไม้ก็ออกมาและเปิดประตูให้กับทหารกรีกเข้าไปทำลายเมืองทรอย สำหรับในความหมายของคอมพิวเตอร์แล้ว โทรจันฮอร์ส หมายถึงดปรแกรมที่ทำลายระบบคอมพิวเตอร์โดยแฝงมากับโปรแกรมอื่น ๆ เช่น เกม สกรีนเวฟเวอร์ เป็นต้น

วิธีป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต


                                      เครดิตข้อมูลจากhttp://www.vajira.ac.th/kt/images/article/voip12.jpg

สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล มีดังนี้


1. การตั้งสติก่อนเปิดเครื่อง ต้องรู้ตัวก่อนเสมอว่าเราอยู่ที่ไหน ที่นั่นปลอดภัยเพียงใด– ก่อน login เข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ต้องมั่นใจว่าไม่มีใครแอบดูรหัสผ่านของเรา

– เมื่อไม่ได้อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรล็อกหน้าจอให้อยู่ในสถานะที่ต้องใส่ค่า login

– ตระหนักอยู่เสมอว่าข้อมูลความลับและความเป็นส่วนตัวอาจถูกเปิดเผยได้เสมอในโลกออนไลน์

2. การกำหนด password ที่ยากแก่การคาดเดา ควรมีความยาวไม่ต่ำกว่า 8 ตัวอักษร และใช้อักขระพิเศษไม่ตรงกับความหมายในพจนานุกรม เพื่อให้เดาได้ยากมากขึ้นและการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป 

3. การสังเกตขณะเปิดเครื่องว่ามีโปรแกรมไม่พึงประสงค์ถูกเรียกใช้ขึ้นมาพร้อมๆ กับการเปิดเครื่องหรือไม่ ถ้าสังเกตไม่ทันให้สังเกตระยะเวลาบูตเครื่อง หากนานผิดปกติอาจเป็นไปได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ติดปัญหาจากไวรัส หรือภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ได้
4. การหมั่นตรวจสอบและอัพเดท OS หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ให้เป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะโปรแกรมป้องกันภัยในเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ควรอัพเดทอินเทอร์เน็ตเบราเซอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
5. ไม่ลงซอฟต์แวร์มากเกินความจำเป็น ซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต้องลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ ได้แก่– อินเทอร์เน็ตเบราเซอร์ เพื่อให้เปิดเว็บไซต์ต่างๆ
– อีเมล์เพื่อใช้รับส่งข้อมูลและติดต่อสื่อสาร– โปรแกรมสำหรับงานด้านเอกสาร, โปรแกรมตกแต่งภาพ เสียง วีดีโอ
– โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์และโปรแกรมไฟร์วอลล์
ซอฟต์แวร์ที่ไม่ควรมีบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ได้แก่– ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ Crack โปรแกรม
– ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่ใช้ในการโจมตีระบบเจาะระบบ (Hacking Tools)
– โปรแกรมที่เกี่ยวกับการสแกนข้อมูล การดักรับข้อมูล (Sniffer) และอื่นๆ ที่อยู่ในรูปซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่ไม่เป็นที่รู้จัก
– ซอฟต์แวร์ที่ใช้หลบหลีกการป้องกัน เช่น โปรแกรมซ่อน IP Address
6. ไม่ควรเข้าเว็บไซต์เสี่ยงภัยเว็บไซต์ประเภทนี้ ได้แก่– เว็บไซต์ลามก อนาจาร– เว็บไซต์การพนัน– เว็บไซต์ที่มีหัวเรื่อง “Free” แม้กระทั่ง Free Wi-Fi
– เว็บไซต์ที่ให้ดาวน์โหลดโปรแกรมที่มีการแนบไฟล์พร้อมทำงานในเครื่องคอมพิวเตอร์
– เว็บไซต์ที่แจก Serial Number เพื่อใช้ Crack โปรแกรม
– เว็บไซต์ที่ให้ดาวน์โหลดเครื่องมือในการเจาะระบบ
7. สังเกตความปลอดภัยของเว็บไซต์ที่ให้บริการธุรกรรมออนไลน์ เว็บไซต์ E-Commerce ที่ปลอดภัยควรมีการทำ HTTPS มีใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีมาตรฐานรองรับ
8. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลงบนเว็บ Social Network ชื่อที่ใช้ควรเป็นชื่อเล่นหรือฉายาที่กลุ่มเพื่อนรู้จัก และไม่ควรเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้ เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขหนังสือเดินทาง ข้อมูลทางการแพทย์ ประวัติการทำงาน
9. ศึกษาถึงข้อกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สื่ออินเทอร์เน็ต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 โดยมีหลักการง่ายๆ ที่จะช่วยให้สังคมออนไลน์สงบสุข คือให้คำนึงถึงใจเขาใจเรา
10. ไม่หลงเชื่อโดยง่าย อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น และงมงายกับข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ควรหมั่นศึกษาหาความรู้จากเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต และศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนปักใจเชื่อในสิ่งที่ได้รับรู้

อ้างอิง : https://sites.google.com/site/nachalern/withi-kar-comti-rabb



โปรแกรมป้องกันไวรัส

โปรแกรมป้องกันไวรัส หรือ แอนติไวรัส (อังกฤษantivirus software) เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อคอยตรวจจับ ป้องกัน และกำจัดโปรแกรมคุกคามทางคอมพิวเตอร์หรือมัลแวร์ ซึ่งหมายถึง ไวรัส เวิร์ม โทรจัน สปายแวร์ แอดแวร์ และซอฟต์แวร์คุกคามประเภทอื่น ๆ
โปรแกรมป้องกันไวรัสมี 2 แบบหลักๆ คือ
  1. แอนติไวรัส (Anti-Virus) เป็นโปรแกรมโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่ว ๆ ไป จะค้นหาและทำลายไวรัสในคอมพิวเตอร์ของเรา
  2. แอนติสปายแวร์ (Anti-Spyware) เป็นโปรแกรมป้องกันการโจรกรรมข้อมูล จากไวรัสสปายแวร์ และจากแฮ็กเกอร์ รวมถึงการกำจัด Adsware ซึ่งเป็นป๊อปอัพโฆษณาอีกด้วย
โปรแกรมป้องกันไวรัสจะค้นหาและทำลายไวรัสที่ไฟล์โดยตรง แต่ในทุก ๆ วันจะมีไวรัสชนิดใหม่เกิดขึ้นมาเสมอ ทำให้เราต้องอัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสตลอดเวลาเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของเราปลอดภัย โดยแอนติไวรัสของแต่ละบริษัทอาจมีรูปแบบการทำงานและหน้าตาของโปรแกรมที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงอาจจะมีการอัปเดตและการป้องกันที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวไม่ควรมีแอนติไวรัส 2 โปรแกรมหรือมากกว่านั้นเพราะอาจจะทำให้โปรแกรมขัดแย้งกันเองจนไม่สามารถใช้งานได้

รายชื่อของโปรแกรมป้องกันไวรัสและโปรแกรมป้องกันสปายแวร์[แก้]




 อ้างอิง : https://th.wikipedia.org/wiki/โปรแกรมป้องกันไวรัส